วิศวกรรมศาสตร์
ที่มา: http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2551/c515201/person/trem1/5203a/en-54.gif
เป็นสาขาความรู้และวิชาชีพเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ประยุกตวิทยา (เทคโนโลยี), วิทยาศาสตร์และความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อการใช้ประโยชน์จากกฎทางธรรมชาติและทรัพยากรทางกายภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด,
เพื่อช่วยในการออกแบบและประยุกต์ใช้ วัสดุ, โครงสร้าง, เครื่องจักร, เครื่องมือ, ระบบ และกระบวนการ เพิ่อการตอบสนองต่อจุดประสงค์ที่ต้องการได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ American
Engineers' Council for Professional Development (ECPD, ซึ่งต่อมาคือ ABET[1])
ได้ให้นิยามเกี่ยวกับวิศวกรรมศาสตร์เอาไว้ดังนี้
วิศวกรรมศาสตร์คือการประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาตร์อย่างสร้างสรรค์เพื่อการออกแบบและพัฒนาโครงสร้าง, เครื่องจักร,
เครื่องมือ, หรือกระบวนการผลิต
หรืองานเพื่อการใช้ประโยชน์สิ่งเหล่านี้โดดๆหรือประยุกต์เข้าด้วยกัน
หรือเพื่อการสร้างหรือใช้งานสิ่งเหล่านั้นด้วยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ใช้งานอย่างหมดจด
หรือเพื่อการพยากรณ์พฤติกรรมของสิ่งเหล่านั้นภายใต้สภาวะที่เจาะจง
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จักต้องคำนึงถึงความมุ่งหมายในการใช้งาน, ความคุ้มค่าในการปฏิบัติการ แลความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพยสินด้วย
|
สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์
วิศวกรรมศาสตร์นั้นคล้ายคลึงกับวิทยาศาสตร์ที่มีขอบข่ายกว้างขวางจนสามารถแตกแยกย่อยลงมาได้หลายสาขาย่อย
และในแต่ละสาขาย่อยต่างก็มองตัวเองในสายงานต่างๆทางวิศวกรรม ถึงแม้ว่าในช่วงแรก
วิศวกรจะถูกฝึกศึกษามาในสาขาใดสาขาหนึ่ง
แต่หลังจากผ่านประสบการณ์งานในสายวิศวกรรมมาแล้ว วิศวกรผู้นั้นอาจจะมีความสามารถในการทำงานได้หลากหลายสาขา
โดยประวัติศาสตร์แล้ว วิศวกรรมสาขาหลักๆแบ่งได้ดังนี้
§ วิศวกรรมการบินและอวกาศยาน
- ออกแบบอากาศยาน อวกาศยาน และสิ่งที่เกี่ยวข้อง
§ วิศวกรรมเครื่องกล
- ออกแบบระบบเชิงกายภาพหรือกลศาสตร์ ตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง
ระบบกันกระเทือน
§ วิศวกรรเคมี -
ใช้หลักการทางเคมีในกระบวนการผลิตเคมีอุตสาหกรรม
รวมไปถึงการค้นคว้าวิจัยเชื้อเพลิงและวัสดุจำเพาะใหม่ๆ
เนื่องด้วยพัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี
วิศวกรรมสาขาใหม่ๆมีความสำคัญมากขึ้นและได้รับการพัฒนาเช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
วิศวกรรมแม็คคาทรอนิกส์ วิศวกรรมไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต นาโนเทคโนโลยี บางครั้ง
สาขาใหม่นั้นก็เกิดขากการผสมผสานความรู้ของสาขาเดิมเข้าด้วยกัน
การเกิดขึ้นใหม่ของสาขาทางวิศวกรรมนั้น โดยทั่วไปแล้วจะถูกนิยามแบบชั่วคราว
ในหลากหลายรูปแบบ หรือนิยามในฐานสาขาย่อยของสาขาที่มีอยู่แล้ว
ช่วงว่างของความรู้นี้ เมื่อได้รับความสนใจศึกษามากขึ้น
ก็จะได้รับการยกระดับให้เป็นสาขาใหม่
ตัวชี้วัดได้ตัวหนึ่งของการเกิดสาขาใหม่นั้นคือการตั้งสาขาวิชาหรือหลักสูตรของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
สำหรับวิศวกรรมศาสตร์ในแต่ละสาขาที่มีปรากฏนั้น
มักจะมีการเหลื่อมล้ำของความรู้
โดยเฉพาะในสาขาที่มีการประยุกต์ใช้ความรู้ทางฟิสิกส์ เคมี และคณิตศาสตร์
ระเบียบวิธีทางวิศวกรรมศาสตร์
วิศวกรจะประยุกต์ใช้ความรู้ในศาสตร์ทางฟิสิกส์และคณิตศาสตร์เพื่อการหาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมต่อความต้องการ
หรือเพื่อการพัฒนางานที่รับผิดชอบให้ดียิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้
วิศวกรมีความจำป็นยวดยิ่งที่จะต้องมีความรู้ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบในโครงการของตน
ดังนั้น วิศวกรจำต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดวิชาชีพของตน
ถ้าทางเลือกนั้นมีมากกว่าหนึ่งทางเลือก
วิศวกรจำต้องวพิเคราะห์ความแตกต่างของทางเลือกและตัดสินใจเลือกเอาทางเลือกที่เหมาะสมต่อความต้องการของปัญหามากที่สุด
หน้าที่ที่สำคัญที่สุดและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิชาชีพวิศวกรก็คือการระบุ
ทำความเข้าใจ และขยายความหมายของ"ข้อจำกัด"ในการออกแบบ
เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ได้ผล และเพียงแค่ความสำเร็จในเชิงเทคนิกนั้นยังไม่ถือว่าดีพอ
หากแต่จะต้องบรรลุความต้องการที่เหนือไปจากขอบข่ายเชิงเทคนิกอีกด้วย
"ข้อจำกัด"ในที่นี้นั้นอาจจะหมายถึง ทรัพยากรที่มี แรงงาน
จินตนาการหรือเทคโนโลยีที่มี ความยืดหยุ่นสำหรับการปรับปรุงพัฒนาต่อ
และปัจจัยอื่นๆ เช่น ราคา ความปลอดภับ ความต้องการของตลาด ผลิตภาพ
และสามารถใช้งานได้จริงในภาคสนามอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อทำความเข้าใจใน"ข้อจำกัด"
วิศวกรจะต้องนำเอาความต้องการที่เจาะจงมาวิเคราะห์เพื่อสร้างขอบเขตซึ่งใช้งานได้จริงสำหรับการผลิตหรือปฏิบัติการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่นใช้ระบบการศึกษาแบบทวิภาค
ปีการศึกษาหนึ่งประกอบด้วย สองภาคการศึกษาปกติและหนึ่งภาคการศึกษาฤดูร้อน
หนึ่งภาคการศึกษาปกติมี 15 สัปดาห์ และภาคการศึกษาฤดูร้อนมี 6
สัปดาห์
ภาคการศึกษาต้น เริ่มประมาณต้นเดือนมิถุนายน และสิ้นสุดปลายเดือนกันยายน
ภาคการศึกษาปลาย เริ่มประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน และสิ้นสุดปลายเดือนกุมภาพันธ์
ภาคการศึกษาฤดูร้อน ระหว่างช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม
ภาคการศึกษาต้น เริ่มประมาณต้นเดือนมิถุนายน และสิ้นสุดปลายเดือนกันยายน
ภาคการศึกษาปลาย เริ่มประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน และสิ้นสุดปลายเดือนกุมภาพันธ์
ภาคการศึกษาฤดูร้อน ระหว่างช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม
ระยะเวลาศึกษา
หลักสูตรปริญญาตรี (4 ปี) ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวมไม่น้อยกว่า 120 หน่วยกิต และไม่เกิน 150 หน่วยกิต โดยกำหนดให้นักศึกษาหลักสูตรที่เรียนเต็มเวลา ใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้นไม่เกิน 8 ปีการศึกษา และหลักสูตรที่เรียนนอกเวลา ใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้นไม่เกิน 12 ปีการศึกษา
การรับบุคคลเข้าศึกษาใน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รับสมัครโดยผ่านมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ADMISSION)
โดยวิธีรับตรง และวิธีสมัครผ่าน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
ซึ่งจะรับสมัคร 5 สาขาวิชา ประกอบด้วย
(1) สาขาวิชาวิศวกรรมทั่วไป ซึ่งนักศึกษาจะต้องเลือกเรียนสาขาเฉพาะเมื่อขึ้นปีการศึกษาที่สอง ในสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมอุตสาหการ หรือวิศวกรรมเคมี
(2) สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร
(3) สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
(4) สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
(5) สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
โดยวิธีรับตรง ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โดยวิธีรับตรง ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โดยวิธีรับตรง ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
โดยวิธีพิเศษ 5 โครงการ ได้แก่
(1) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการคัดเลือกนักเรียนผู้มีความสามารถดีเด่นด้านกีฬา”
(2) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการรับนักเรียนที่เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรมและบริการสังคม”
(3) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการความร่วมมือทางวิชาการกับกรมอาชีวศึกษา”
(4) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการขยายโอกาสทางการศึกษา ระดับปริญญาตรี แก่ผู้ด้อยโอกาสหรือพิการ”
(5) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก“มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ ในพระ อุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าที่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
(2) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการรับนักเรียนที่เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรมและบริการสังคม”
(3) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการความร่วมมือทางวิชาการกับกรมอาชีวศึกษา”
(4) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก “โครงการขยายโอกาสทางการศึกษา ระดับปริญญาตรี แก่ผู้ด้อยโอกาสหรือพิการ”
(5) นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจาก“มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ ในพระ อุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าที่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น